ในกรณีที่บ้านถูกยึดขายทอดตลาดแล้ว ธนาคารออมสินมีสิทธิที่จะทวงส่วนต่างเพิ่มเติมจากลูกหนี้ได้ตามกฎหมาย ในส่วนต่างเพิ่มเติมนี้ หมายถึง เงินต้นคงค้าง ดอกเบี้ยค้างชำระ และค่าใช้จ่ายในการขายทอดตลาด ในกรณีที่ราคาขายทอดตลาดไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ทั้งหมด
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 309 วรรคสอง บัญญัติว่า “ถ้าราคาทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดไม่พอชำระหนี้ทั้งหมด เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกเอาส่วนต่างนั้นได้”
ดังนั้น ธนาคารออมสินจึงมีสิทธิที่จะทวงส่วนต่างเพิ่มเติมจากลูกหนี้ได้ ในกรณีที่ราคาขายทอดตลาดไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ธนาคารออมสินจะต้องดำเนินการทวงหนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องแจ้งให้ลูกหนี้ทราบถึงจำนวนเงินส่วนต่างที่จะต้องชำระ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการขายทอดตลาดเสร็จสิ้น หากธนาคารออมสินไม่ได้แจ้งให้ลูกหนี้ทราบภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ลูกหนี้มีสิทธิที่จะยกข้อต่อสู้ว่าธนาคารออมสินไม่ได้แจ้งให้ทราบถึงจำนวนเงินส่วนต่างที่จะต้องชำระ
นอกจากนี้ ธนาคารออมสินจะต้องดำเนินการทวงหนี้อย่างสุจริต โดยต้องไม่ใช้วิธีการทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรม เช่น การทวงหนี้โดยข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการใช้คำพูดที่หยาบคาย
ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่ชำระส่วนต่างเพิ่มเติม ธนาคารออมสินมีสิทธิที่จะฟ้องบังคับคดีเอากับลูกหนี้ได้ตามกฎหมาย
สำหรับวิธีการต่อสู้กับธนาคารออมสินในกรณีนี้ สามารถทำได้ดังนี้
- ตรวจสอบจำนวนเงินส่วนต่างที่จะต้องชำระให้ถูกต้อง หากเห็นว่าจำนวนเงินส่วนต่างที่ธนาคารออมสินแจ้งมานั้นไม่ถูกต้อง สามารถโต้แย้งกับธนาคารออมสินได้
- ตรวจสอบว่าธนาคารออมสินได้แจ้งให้ลูกหนี้ทราบถึงจำนวนเงินส่วนต่างที่จะต้องชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการขายทอดตลาดเสร็จสิ้น หากธนาคารออมสินไม่ได้แจ้ง ลูกหนี้มีสิทธิที่จะยกข้อต่อสู้ว่าธนาคารออมสินไม่ได้แจ้งให้ทราบถึงจำนวนเงินส่วนต่างที่จะต้องชำระ
- ตรวจสอบว่าธนาคารออมสินดำเนินการทวงหนี้อย่างสุจริต หากเห็นว่าธนาคารออมสินดำเนินการทวงหนี้โดยข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการใช้คำพูดที่หยาบคาย สามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือสำนักงานอัยการสูงสุด
หากลูกหนี้ไม่แน่ใจว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร สามารถปรึกษากับทนายความเพื่อขอคำแนะนำได้