กรณีที่คู่สมรสเลิกกันโดยไม่ได้หย่าร้าง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปก่อหนี้สิน ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้นั้นอาจต้องร่วมรับผิดชอบหนี้สินนั้นด้วย ขึ้นอยู่กับว่าหนี้สินนั้นเกิดจากสาเหตุใด
หนี้สินของคู่สมรสสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- หนี้ส่วนตัว คือ หนี้ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อขึ้นก่อนหรือระหว่างสมรส โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับอีกฝ่าย เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้จากการพนัน เป็นต้น หนี้ประเภทนี้ฝ่ายที่ก่อหนี้จะต้องรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว อีกฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบ
- หนี้ร่วม คือ หนี้ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อขึ้นระหว่างสมรส โดยเกี่ยวข้องกับอีกฝ่าย เช่น หนี้ค่าผ่อนบ้าน หนี้ค่าผ่อนรถ หนี้ค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น หนี้ประเภทนี้ฝ่ายที่ก่อหนี้และอีกฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้จะต้องร่วมกันรับผิดชอบ โดยเจ้าหนี้สามารถยึดทรัพย์สินของทั้งสองฝ่ายเพื่อชำระหนี้ได้
ในกรณีนี้ หากฝ่ายที่ก่อหนี้เป็นหนี้ส่วนตัว ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้จะไม่ต้องรับผิดชอบหนี้นั้น แต่หากฝ่ายที่ก่อหนี้เป็นหนี้ร่วม ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้จะต้องร่วมรับผิดชอบหนี้นั้นด้วย โดยเจ้าหนี้สามารถยึดทรัพย์สินของทั้งสองฝ่ายเพื่อชำระหนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งยกเว้นความรับผิดในการชำระหนี้ได้ โดยศาลจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สาเหตุของหนี้สิน ความสามารถในการชำระหนี้ของฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้ และประโยชน์ที่ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้ได้รับจากหนี้สินนั้น เป็นต้น
ตัวอย่างกรณีที่ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้อาจได้รับการยกเว้นความรับผิดในการชำระหนี้ร่วม เช่น
- ฝ่ายที่ก่อหนี้ไปกู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายส่วนตัวโดยไม่บอกอีกฝ่าย
- ฝ่ายที่ก่อหนี้ไปกู้เงินมาเพื่อธุรกิจที่ล้มเหลว
- ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ร่วมได้ เนื่องจากมีภาระหนี้สินส่วนตัวจำนวนมาก
นอกจากนี้ ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้ยังสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ฝ่ายที่ก่อหนี้จ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรหรือค่าอุปการะเลี้ยงดูตนได้ในกรณีที่ฝ่ายที่ก่อหนี้ไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะชำระหนี้ร่วมได้
ดังนั้น หากคู่สมรสเลิกกันโดยไม่ได้หย่าร้าง และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปก่อหนี้สิน ฝ่ายที่ไม่เป็นหนี้ควรปรึกษากับทนายความเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของตนตามกฎหมาย