เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเอกสารสิทธิจาก “หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน” (ส.ป.ก.) เป็น “โฉนดเพื่อเกษตรกรรม” โดยกำหนดให้มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และเริ่มแจกโฉนดฉบับแรกได้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567
การเปลี่ยนชื่อ ส.ป.ก. เป็น โฉนดเพื่อเกษตรกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อ
- ลดความสับสนในการเรียกชื่อเอกสารสิทธิ
- สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรผู้ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
- ส่งเสริมให้เกษตรกรนำที่ดินไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากการแก้ไขชื่อเอกสารสิทธิแล้ว คณะรัฐมนตรียังได้มีมติเห็นชอบให้แก้ไขระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการออกโฉนดเพื่อเกษตรกรรม โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำคัญ มีดังนี้
- ผู้ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสหกรณ์ และถือครองทำประโยชน์เกิน 5 ปี ขึ้นไป
- ที่ดินที่จะออกโฉนดจะต้องเป็นที่ดินที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรเป็นหลัก
- เกษตรกรผู้ถือครองที่ดินจะต้องชำระค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้แก่ ส.ป.ก.
การออกโฉนดเพื่อเกษตรกรรมคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ดังนี้
- เกษตรกรจะได้รับความมั่นคงในสิทธิการถือครองที่ดิน
- เกษตรกรสามารถนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิต
- ที่ดิน ส.ป.ก. จะถูกใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการออกโฉนดเพื่อเกษตรกรรม โดยเฉพาะการกำหนดคุณสมบัติของเกษตรกรผู้ถือครองที่ดิน เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรที่ดิน หรือทำให้ที่ดิน ส.ป.ก. ตกไปอยู่ในมือของนายทุน