วิธีรับมอบครอบครองอาวุธปืนมรดกต่อจากบิดาที่เสียชีวิต มีดังนี้
- แจ้งการตายของบิดาต่อนายทะเบียนท้องที่ที่บิดามีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในท้องที่นั้นภายใน 30 วันนับแต่วันตาย
- ยื่นคำขอรับมรดกต่อนายทะเบียนท้องที่ที่บิดามีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในท้องที่นั้น
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขอรับมรดกแล้ว จะประกาศการขอรับมรดกไว้ในที่ว่าการอำเภอมีกำหนด 30 วัน เพื่อให้ทายาทอื่นคัดค้าน (ไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำแต่เพื่อป้องกันการร้องเรียนในภายหลัง)
- เมื่อครบกำหนด 30 วันแล้ว หากไม่มีทายาทอื่นคัดค้าน นายทะเบียนท้องที่จะออกหนังสือรับรองการตายและหนังสือรับรองการขอรับมรดกให้แก่ทายาท
- ทายาทที่เป็นผู้รับมรดกอาวุธปืน ต้องยื่นคำขอรับโอนอาวุธปืนต่อนายทะเบียนท้องที่ที่บิดามีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในท้องที่นั้น โดยนำเอกสารหลักฐานดังนี้
- สำเนาหนังสือรับรองการตายและหนังสือรับรองการขอรับมรดก
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการของทายาท
- สำเนาทะเบียนบ้านของทายาท
- สำเนาใบมรณบัตรของบิดา
- สำเนาแบบ ป.๔ ของอาวุธปืน (หากมี)
- อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืน
- เมื่อนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขอรับโอนอาวุธปืนแล้ว จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานและออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.๔) ให้แก่ทายาท
ทั้งนี้ ทายาทที่เป็นผู้รับมรดกอาวุธปืนจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ดังนี้
- เป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุไม่ต่ำกว่า 21 ปีบริบูรณ์
- มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและสามารถติดต่อได้
- มีสุขภาพจิตปกติและไม่เป็นโรคจิตเวช
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
- ไม่เป็นผู้ต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกสำหรับความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนหรือความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
- ไม่เป็นผู้ต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกสำหรับความผิดอาญาอื่นเว้นแต่ความผิดลหุโทษ
- ไม่เป็นผู้เสพยาเสพติดให้โทษ
หากทายาทไม่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจพิจารณาอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนได้ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควร