กรณีที่ผู้ค้ำประกันเงินกู้สหกรณ์ถูกฟ้องบังคับคดีนั้น ขั้นตอนในการดำเนินการมีดังนี้
- รับทราบหมายเรียก
ผู้ค้ำประกันจะต้องรับทราบหมายเรียกจากศาล โดยหมายเรียกจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับคดี เช่น ชื่อและที่อยู่ของผู้กู้ ผู้ค้ำประกัน มูลหนี้ รายละเอียดของสัญญาค้ำประกัน เป็นต้น
- เตรียมเอกสารหลักฐาน
ผู้ค้ำประกันจะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี เช่น
* สัญญาค้ำประกัน
* เอกสารแสดงรายได้
* เอกสารแสดงทรัพย์สิน
- ยื่นคำให้การ
ผู้ค้ำประกันจะต้องยื่นคำให้การต่อศาลภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยคำให้การต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับคดี
- พิจารณาคดี
ศาลจะพิจารณาคดีโดยคำนึงถึงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ปรากฏในคำให้การของผู้ค้ำประกัน โดยศาลอาจมีคำพิพากษาให้บังคับคดีแก่ผู้ค้ำประกัน หรืออาจยกฟ้อง
- บังคับคดี
หากศาลมีคำพิพากษาให้บังคับคดีแก่ผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันจะต้องชำระหนี้แทนผู้กู้ โดยเจ้าหนี้สามารถบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของผู้ค้ำประกันได้
ทั้งนี้ ผู้ค้ำประกันสามารถดำเนินการต่าง ๆ ดังนี้
- เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอผ่อนชำระหนี้
- ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอลดเบี้ยปรับและดอกเบี้ย
- ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้เจ้าหนี้ยึดทรัพย์สินอื่นแทนทรัพย์สินของผู้ค้ำประกัน
โดยการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ค้ำประกันสามารถบรรเทาภาระหนี้สินได้
ในกรณีที่ผู้ค้ำประกันถูกฟ้องบังคับคดี มีข้อควรระวังดังนี้
- ไม่ควรเพิกเฉยต่อหมายเรียกจากศาล เพราะหากเพิกเฉย ศาลอาจมีคำพิพากษาให้บังคับคดีโดยไม่มีการพิจารณาคดี
- ควรเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีให้พร้อม เพื่อใช้ประกอบคำให้การต่อศาล
- ควรปรึกษาทนายความเพื่อขอคำแนะนำในการดำเนินการต่อไป