ขอจัดตั้งผู้จัดการมรดกของสามีที่เสียชีวิต

การขอจัดตั้งผู้จัดการมรดกของสามีที่เสียชีวิต สามารถทำได้ดังนี้

  1. ยื่นคำร้องขอจัดตั้งผู้จัดการมรดก

ให้ผู้ร้องขอจัดตั้งผู้จัดการมรดกยื่นคำร้องขอต่อศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาคดีเกี่ยวกับมรดกของเจ้ามรดก โดยคำร้องขอต้องระบุข้อมูลดังนี้

* ชื่อและที่อยู่ของผู้ร้องขอ
* ชื่อและที่อยู่ของเจ้ามรดก
* วัน เดือน ปีเกิดของเจ้ามรดก
* วัน เดือน ปีถึงแก่ความตายของเจ้ามรดก
* รายชื่อทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก
* รายชื่อผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก
* เหตุผลและความจำเป็นในการขอจัดตั้งผู้จัดการมรดก
  1. ยื่นเอกสารหลักฐานประกอบคำร้องขอ

ผู้ร้องขอจะต้องยื่นเอกสารหลักฐานประกอบคำร้องขอดังนี้

* สำเนาบัตรประชาชนของผู้ร้องขอ
* สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ร้องขอ
* สำเนาใบมรณบัตรของเจ้ามรดก
* สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบสำคัญการสมรสของเจ้ามรดกและคู่สมรส
* สำเนาทะเบียนบ้านของทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก
  1. การพิจารณาคำร้องขอ

เมื่อศาลได้รับคำร้องขอแล้ว ศาลจะพิจารณาคำร้องขอและกำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องขอ

  1. การไต่สวนคำร้องขอ

ในวันนัดไต่สวนคำร้องขอ ศาลจะเรียกผู้ร้องขอ ทายาทโดยธรรม และบุคคลที่เกี่ยวข้องมาไต่สวนคำร้องขอ โดยศาลอาจสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากผู้ร้องขอ ทายาทโดยธรรม และบุคคลที่เกี่ยวข้อง

  1. คำสั่งศาล

หลังจากไต่สวนคำร้องขอแล้ว ศาลจะพิจารณาคำสั่งศาล โดยศาลอาจมีคำสั่งดังนี้

* อนุญาตให้ตั้งผู้จัดการมรดก
* ไม่อนุญาตให้ตั้งผู้จัดการมรดก

หากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ตั้งผู้จัดการมรดก ศาลจะออกคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดก

  1. หน้าที่ของผู้จัดการมรดก

ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่รวบรวมและแบ่งปันมรดกให้แก่ทายาทโดยธรรมตามสิทธิและหน้าที่ของตน โดยผู้จัดการมรดกจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาล

เอกสารเพิ่มเติมสำหรับขอจัดตั้งผู้จัดการมรดก

นอกจากเอกสารหลักฐานที่ระบุไว้ข้างต้นแล้ว ผู้ร้องขออาจขอนำเอกสารเพิ่มเติมมาประกอบคำร้องขอได้ เช่น

  • พินัยกรรมของเจ้ามรดก
  • หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องขอกับเจ้ามรดก
  • หลักฐานแสดงความจำเป็นในการขอจัดตั้งผู้จัดการมรดก

ทั้งนี้ ผู้ร้องขอควรปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการขอจัดตั้งผู้จัดการมรดกอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

Share on: